1. มีราคาถูกกว่าคอนโดสร้างใหม่ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันในบริเวณนั้น
2. ค่าใช้จ่ายรายเดือน ต้องต่ำกว่าค่าเช่าที่คาดว่าจะได้รับ นั่นคือค่าผ่อนซื้อรายเดือนกับธนาคาร หากเอามารวมกับค่าใช้จ่ายต่างๆที่ต้องเสียไปในแต่ละเดือน เช่นค่านิติบุคคลส่วนกลาง ค่าภาษี และค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่มอื่นๆ คิดเบ็ดเสร็จแล้ว จะต้องอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเช่าที่พึงจะได้รับ
3. คอนโดต้องมีมีเอกลักษณ์ทำให้เป็นที่ต้องการและได้เปรียบเหนือคอนโดอื่นๆ ซึ่งอาจมาจากการออกแบบ วิวทิวทัศน์ และทำเลที่ตั้ง เป็นต้น
4. ห้องเช่าในพื้นที่ ต้องมีคนอาศัยเต็ม อัตราห้องว่าง(Vacancy Rate) ของห้องชุดใกล้เคียง รวมถึงอพาร์ตเม้นต์ในบริเวณนั้น ไม่ควรเกิน 5%
5. ซื้อในช่วงที่คนส่วนใหญ่กำลังมองอนาคตคอนโดฯ ในแง่ร้ายจะมีสิทธิซื้อได้ในราคาถูก แล้วรอขายในช่วงที่ตลาดคึกคัก ซึ่งจะเป็นช่วงได้ราคาดี
6. เศรษฐกิจในท้องถิ่นจะต้องมีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะดีขึ้นอย่างเด่นชัด สังเกตจากการจ้างงานในพื้นที่ ยอดขายปลีก ยอดการจัดตั้งธุรกิจใหม่ ยอดขายรถยนต์ในพื้นที่ เงินฝากธนาคาร หรือ เป็นต้น
7. โอกาสที่จะเกิดคอนโด ใหม่ๆ รวมถึงอพาร์ตเม้นต์ในบริเวณนั้นๆ มีน้อย อาจเพราะไม่มีพื้นที่ว่างเหลืออีกแล้ว หรือเป็นเพราะถูกทางราชการห้ามไม่ให้มีการก่อสร้างได้อีก
8. หากในพื้นที่เป็นย่านที่มีที่อยู่อาศัยลักษณะอื่นผสมผสานอยู่ด้วย ราคาคอนโดจะต้องต่ำกว่าที่อยู่อาศัยอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ
9. คอนโดต้องมีสถานะมั่นคงและมีเสถียรภาพ หากเป็นคอนโดที่สร้างเสร็จแล้ว นิติบุคคลจะต้องมีเงินสำรองมากเพียงพอ ที่จะนำมาใช้ซ่อมแซมและดูแลรักษาได้ตลอด และไม่มีปัญหาฟ้องร้องกัน
ตัวชี้สถานะความมั่นคงที่สำคัญอีกตัวหนึ่งคือให้สังเกตผู้อยู่อาศัยในคอนโดว่ามีสัดส่วนเจ้าของอยู่อาศัยเองมากน้อยเท่าไหร่ ยิ่งเจ้าของอยู่เองมากเท่าไหร่ยิ่งดีมากเท่านั้น ถ้าเจ้าของอยู่เอง 80-90% ได้ก็ถือว่าดี
เสถียรภาพและความมั่งคง ในอีกด้านหนึ่งคือ คุณภาพในการดูแลพื้นที่ส่วนกลางและความสัมพันธ์ระหว่างผู้อยู่อาศัยกับนิติบุคคล
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะที่คุณจะเจอคอนโดที่เข้าลักษณะนี้ครบทุกข้อ หากคุณพบได้หลายข้อจากข้อแรกๆ ก็นับว่าเป็นคอนโดที่น่าลงทุนแล้ว ลองใช้เกณฑ์เหล่านี้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจ ท่านก็จะได้คอนโดที่มีโอกาสสูงในการเพิ่มมูลค่าในอนาคตแล้ว